มองเมืองผ่าน “MOVE TO HEAVEN” นักเก็บกวาดที่เกิดเหตุกับความทรงจำที่หลงเหลือไว้เบื้องหลัง


1023
1023 points

ได้มีโอกาสดูซีรีย์สัญชาติเกาหลีใน netflix

เรื่อง MOVE TO HEAVEN เป็นเรื่องราวของ ฮันกือรูนักเก็บกวาดที่เกิดเหตุซึ่งเป็นเด็กพิเศษและยังคงทำอาชีพนี้เพื่อสานต่องานจากคุณพ่อที่เสียชีวิตไป

นอกเหนือจากเรื่องราวชีวิตของฮันกูรูแล้ว ในแต่ละตอนยังบอกเล่าให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสภาพเมือง อาคารที่อยู่อาศัย ปัญหาสังคมที่ส่งผลไปยังผู้ตาย

สิ่งของและสภาพแวดล้อมที่เหลืออยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิตจึงเป็นกุญแจของความทรงจำให้คนข้างหลังรับรู้ตัวตนที่เหลืออยู่ของผู้ตาย

เมื่อนำภาพของซีรีย์แต่ละตอนมาเปรียบเทียบกัน ทำให้เราได้ข้อคิดจากซีรีย์เรื่องนี้ว่า “ความตายไม่เคยแบ่งแยกฐานะ เป็นสิ่งเดียวที่เท่าเทียมกันที่สุดบนโลกใบนี้”

ดู EP.1 แล้วทัชใจมาก ไม่อยากบอกเลยว่าจริงๆสภาพที่อยู่ของเราและลักษณธงานของเราก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มคนนี้เท่าไหร่ บางทีก็ยังคิดเลยว่าถ้าเกิดเราเป็นอะไรขึ้นมาและต้องตายในห้องเล็กๆแบบนี้ยังไม่ทันได้เจอครอบครัวมันก็น่าเศร้าไม่เบา เด็กจบใหม่หลายๆคนที่กำลังตั้งตัวโดยที่ไม่มีทุนชีวิต ต้องมาผจญโลกอันโหดร้ายมีอยู่จริงๆค่ะ

ตอนนี้ขอโนคอมเม้น แพ้เรื่องคนแก่ที่ต้องอยู่คนเดียว T T

สิ่งที่สงสัยกับตอนนี้มากที่สุดคือ เพื่อนบ้านกลับติฉินนินทาผู้ตาย ซึ่งไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้เลย เป็นชุมชนที่เหมือนพยายามปั้นภาพลักษณ์ให้ดูดี แต่จริงๆมีการใช้ชีวิตที่ต่างคนต่างอยู่สูงมากๆ

ระหว่างนั่งแคปภาพ เราก็เพิ่งมาสังเกตว่า คุณลุงและภรรยา ใช้ชีวิตอยู่บนชั้นดาดฟ้า ! ทั้งๆที่เป็นคนแก่และภรรยาเองก็ใช้รถเข็น ดูๆไปอาคารค่อนข้างมีสภาพเก่าและไม่มีลิฟต์ด้วย เมืองที่รองรับสำหรับคนสูงอายุในอนาคตอาจเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกๆที่ควรคำนึงถึงให้มากกว่านี้

ตอนนี้ทำให้เราเพิ่งรู้ว่ามีปัญหาเรื่องการตีกลับเด็กที่อุปการะกลับมาของเกาหลี เราไม่แน่ใจว่าอันนี้เป็นปัญหาใหญ่ของที่นี่ไหม สิ่งที่ชอบคือรายละเอียดของหนังที่เล่าความลำบากของแมธธิว แม้แต่ที่ตายสุดท้ายก็ไม่ใช่บ้านเพราะเป็นคนไร้สัญชาติ

แม้แต่บ้านที่ดูร่ำรวยที่สุดยังไม่อาจร้อดพ้นจากความตายได้ คุณหมอมีคนรักเป็นเพศเดียวกันทำให้คนเป็นพ่อเหมือนจะรับไม่ได้ แม้คุณหมอผู้ซึ่งเป็นลูกของจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผู้เป็นพ่อกลับห่วงเพียงภาพลักษณ์ของตัวเอง เห็นได้ชัดจากเครื่องแบบที่แต่งเต็มยศและการเผาสิ่งต่างๆของลูกอย่างไม่ใยดี และอีกประเด็นที่ทำให้สะเทือนใจมากๆคือ การไม่ได้ทำตามหัวใจของตัวเองตั้งแต่แรกเพราะกลัวพ่อแม่จะเสียหน้า ทำให้ตยและคนรักต้องทะเลาะกันและแยกจากกันโดยไม่ได้บอกลาไปตลอดกาล.

กลับมามองที่เมืองไทย อาชีพแบบนี้มันไม่มีรึเปล่านะ เพราะอย่างพี่ๆกู้ภัยเขาก็แค่เก็บศพในที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้มานั่งเก็บกวาดสถานที่แบบนี้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นญาติๆหรือจัดการทำกันเองรึเปล่านะ ?

หลังจบ EP ที่10 ของเรื่อง สิ่งที่ได้จากซีรีย์เรื่องนี้เป็นเครื่องเตือนใจให้กับตัวเองคือ จงใช้ชีวิตทุกวัน ให้เหมือนเป็นสุดวันสุดท้ายของชีวิต เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความตายจะพรากเราไปจากทุกสิ่งวันไหน.


Like it? Share with your friends!

1023
1023 points

Comments

comments